บรรยาย EP.10
ร่างเล็กวิ่งตรงเข้าไปในเขตหวงห้าม เขามองหาเพื่อนร่วมสภานักเรียนที่ขนาดตัวพอๆกับเขา
“เมฆอยู่ไหนอ่ะ!?” ตะวัน
ตะวันตะโกนเรียกชื่อของคนคนนั้นอีกครั้ง เขาเริ่มหวาดระแวงและในใจเริ่มสั่นไหว ตรงที่เขายืนอยู่มันน่ากลัวจนอธิบายเป็นคำพูดออกมาไม่ถูก
“เมฆ กูไม่เล่นนะ!” ตะวัน
แกร่บ...
หลังจากที่เขาตะโกนเรียกหาเมฆอีกครั้งก็มีเสียงเหยียบใบไม้ดังขึ้น สัญชาตญาณของตะวันบ่งบอกทันทีว่าเสียงนั้นมันมาจากในป่าหลังค่าย มองไปทางขวามือของศาลพระภูมิก็เห็นแล้ว ตะวันกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเดินไปทางป่านั่น เท้าเขาข้างนึงได้เหยียบเส้นระหว่างโลกมนุษย์และโลกหลังความตายของชายป่าไปแล้ว
“เมฆอยู่ไหน...” ตะวัน
เขาพูดด้วยเสียงสั่นคลอนก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปในป่าช้า ความรู้สึกแรกที่เดินเข้าไปก็คือในนี้มันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ในนี้มีแต่ความมืดและมีแต่ต้นไม้เต็มไปหมดทั้งๆที่ตอนนี้มันตอนบ่ายแท้ๆ
“ตะวัน” เมฆ
“เมฆ!? เมฆเหรอ?” ตะวัน
ตะวันหันไปทางต้นตอของเสียง แต่ก็กลับไม่เห็นตัวคนเรียก ตะวันเริ่มเหงื่อตกและมือสั่นเอามากๆ เขาก็เดินเข้ามาในนี้ลึกแล้ว แต่เขาคงคิดว่าเขาจะต้องหาทางออกเจอแน่นอนเพราะเขาเดินตรงเข้ามาอย่างเดียว
“ตะวัน กูอยู่นี่” เมฆ
เมื่อเสียงเรียกชื่อตะวันดังขึ้น ตะวันรีบหันหน้าควับไปทางต้นตอของเสียง และแล้วเขาก็เพ่งเล็งไปที่ร่างของคนที่ยืนหันหลังให้อยู่
“เมฆ!” ตะวัน
และใช่... ร่างที่ตะวันเห็นนั้นมันคือร่างของเมฆที่หันหลังให้อยู่ ชุดสีแดงขาว กางเกงขาสั้นสีแดงรองเท้าผ้าใบที่เมฆเขาใส่เป็นประจำ ตะวันยืนยันได้แล้วว่าคนที่ยืนหันหลังให้อยู่คือเมฆ
“เมฆ ออกมาเถอะ ในนี้มันน่ากลัวจะตาย” ตะวัน
ตะวันเดินเข้าไปหาเมฆอย่างช้าๆ ในขณะที่ตะวันกำลังเอื้อมมือไปหาเมฆข้างหน้า แต่แล้วเมฆก็เดินหนีเขาและทิ้งห่างตะวันไปไกลเพียงแค่พริบตา
“เดี๋ยวดิเมฆ! จะไปไหน เข้าไปลึกเกินไปแล้วนะ!” ตะวัน
“ตามมาสิ” เมฆ
ตะวันหันหลังกลับไปมองทางเข้าที่ตัวเองเดินเข้ามาก่อนจะสาวเท้าวิ่งตามเมฆเข้าไปลึกอีก ตะวันเดินตามเมฆจนขาล้า เขาพักหอบอยู่พักหนึ่งก่อนจะเงยหน้ามองเมฆ แต่ทว่า... ก็ไม่เห็นเมฆแล้ว ในป่านี้มีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น...
“เมฆ... หายไปไหนแล้วอ่ะ...” ตะวัน
ตะวันเรียกชื่อเพื่อนร่วมสภาอีกครั้งก่อนสายตาของเขาจะสะดุดไปที่บางสิ่งบางอย่างที่อยู่บนพื้นดิน และสิ่งที่เขาเห็นก็ต้องทำให้ตะวันตกใจจนแทบจะช็อค มันคือร่างของใครบางคนกำลังนอนแน่นิ่งและมัดตราสังอยู่ และใช่ สิ่งที่เขาเห็นนั้นคือศพ
“เหี้ย!!!!!” ตะวัน
ตะวันล้มลงไปกับพื้นที่เต็มไปด้วยดินและใบไม้แห้ง เขาได้ยินเสียงขำของคนหลายคนที่ลอยตามมากับสายลมอย่างน่าสยอง ตะวันรีบวิ่งหนีออกจากที่ตรงนี้ เขาวิ่งกลับไปทางเดิมที่เดินเข้ามา แต่ตะวันกลับหาทางออกนั้นไม่เจอ!
“ทุกคน! ช่วยด้วย!” ตะวัน
เขาตะโกนออกไปทั่วป่าช้า แต่ก็เงียบสงัดไร้เสียงตอบรับกลับมา เหมือนตะโกนเรียกแค่ความว่างเปล่าเท่านั้น
“ฮึก...องศา!!!” ตะวัน
ตะวันเริ่มสะอื้นและเรียกชื่อเพื่อนสนิทของเขา แต่ก็เช่นเดิม เรียกไปแล้วก็มีแต่ความว่างเปล่าไร้เสียงขานรับใดๆกลับมา
“พ่อครับ! แม่ครับ! ช่วยผมด้วย! ฮึก...” ตะวัน
หมดหนทางจะตามหา เขาตะโกนเรียกหาพ่อแม่ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเริ่มหายใจติดๆขัดๆ เหมือนกับอากาศในป่านี้กำลังจะหมดลง...
“แค่ก... องศา... ช่วยด้วย” ตะวัน
เขาเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา โชคดีที่ฟ้ายังเมตตาเขาอยู่ คนในกลุ่มสภากำลังเรียกหาเขาพอดี มือเรียวพิมพ์ตัวอักษรขอความช่วยเหลือด้วยสภาพคนไร้เรี่ยวแรง
Rrrrr... Rrrrr...
โทรศัพท์ของเขาสั่นรัวถี่จากข้อความขององศาส่งหาเขาไม่ขาดสาย แต่ตะวันไม่มีแรงจะพิมพ์ตอบแล้ว ได้แต่มองข้อความนั้นที่ส่งมาไม่หยุด องศาทั้งโทรทั้งส่งข้อความแต่ก็ไร้การตอบรับจากตะวันกลับมา หารู้ไม่ว่าคนตัวเล็กกำลังจะหมดเรี่ยวแรงไปแล้วในที่สุด
“ทำไมเปลือกตามันหนักขนาดนี้... เหมือนกับกำลังจะตาย” ตะวัน
“ตะวัน มาอยู่กับเราเถอะ” เมฆ
ตาสีน้ำตาลอ่อนมองไปทางต้นตอของเสียง มันเป็นร่างของเมฆและผู้คนที่ตายไปแล้วยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เชิญชวนให้ตะวันตายตามเขาไปแล้วจะมีผีตนนึงได้ไปเกิด
“ไม่... กูไม่ไป!” ตะวัน
ตะวันตอบกลับไปพร้อมใช้แรงเฮือกสุดท้ายวิ่งหนีหาทางออกจากป่ามรณะแห่งนี้ ถึงแม้ว่าในนี้จะมีเพียงแค่แสงอาทิตย์เล็กน้อยแต่เขาจะต้องไม่มาตายอยู่ที่นี่
“องศา!! ฮึก...ฮือออ” ตะวัน
เขาร้องไห้พร้อมตะโกนเรียกชื่อเพื่อนรักที่สุด ตะวันหวังว่าจะเจอองศาได้ยินและตามเสียงเข้ามา
ในป่านี้มีทั้งสัตว์พิษร้ายและกิ่งไม้เต็มไปหมด เนื้อตัวอันบอบบางของตะวันต้องเต็มไปด้วยบาดแผลจากการทุรนทุรายหนีหาทางออก
“ตะวันอยู่ไหน!?” องศา
“ตะวันออกมา!!” สิงหา
และแล้วฟ้าก็ยังเมตตาเขาอยู่ เสียงเรียกชื่อของเขาดังออกมาจากที่ไหนที่หนึ่ง มันเป็นเสียงขององศาและสิงหาที่กำลังเรียกชื่อเขาอยู่ ตะวันรีบวิ่งไปทางต้นตอของเสียง องศาเริ่มเห็นร่างของใครคนหนึ่งที่คุ้นเคยกำลังวิ่งออกมาในสภาพคนไร้เรี่ยวแรง
“ตะวัน!!!” องศา
ตะวันรีบวิ่งเข้าไปหาองศาเพื่อนรักของเขาที่อยู่หน้าป่า ร่างเล็กโผลเข้ากอดจมอกแกร่ง องศาโอบกอดเพื่อนตัวเล็กของเขาแน่น องศารู้สึกถึงความเปียกเล็กๆน้อยๆตรงอก ตะวันกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ที่อกของเขา องศาเจ็บใจที่เขาช่วยคนที่ชอบไว้ไม่ทัน ต้องปล่อยให้คนตัวเล็กๆอย่างตะวันเข้าป่าไปคนเดียว แถมยังมีบาดแผลจากกิ่งไม้ข่วนเต็มไปหมดอีก
“ไม่เป็นไรแล้วนะ กูอยู่นี่แล้ว” องศา
ตะวันผละกอดออกพลางเงยหน้ามองคนตัวสูงกว่าโดยที่ยังมีน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย องศาเห็นสีหน้าคนตัวเล็กตรงนี้แล้วถึงกัดปากล่างแล้วคิ้วขมวดทันที องศาทนเห็นหน้าอันเจ็บปวดแบบนี้ไม่ไหวเพราะเขารู้สึกปวดใจอย่างมาก
องศาถกชายเสื้อของเขาขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้คนตัวเล็ก ดูแลดีอย่างกับเป็นพ่อแม่คนที่สองของตะวัน
“มึง พามันไปทำแผลก่อน ในนั้นเชื้อโรคเยอะจะตาย” สิงหา
องศาพยักหน้าตอบรับก่อนจะพาตะวันเดินไปทางฝ่ายพยายาล ทุกคนในค่ายต่างตกใจที่เห็นตะวันกลับมาในสภาพที่เหมือนตะเกียกตะกายจากอะไรซักอย่าง ฝ่ายพยาบาลรีบถือกล่องพยาบาลมาหาตะวัน และหนึ่งในนั้นคือเมฆที่กำลังวิ่งตรงเข้ามา
ตะวันหันกลับไปกอดองศาแน่นและไม่อยากมองหน้าเมฆ เมฆจับไปที่ตัวของตะวันแต่เขากลับปัดแขนเมฆทิ้งอย่างไม่ใยดี เมฆมองหน้ากับเพื่อนๆอย่างงงๆ
“ตะวัน กูเมฆเอง มาทำแผลก่อน”
ตะวันค่อยๆหันหน้ามองเมฆแล้วถามด้วยน้ำเสียงอู้อี้จากอกขององศา คำถามนั้นถึงกลับทำให้เพื่อนๆที่ได้ยินยิ่งงงตามไปกันใหญ่
“มึงใช่เมฆตัวจริงรึเปล่า...”
“... กูเมฆไง เมฆตัวจริง ลองมาจับ”
เมฆจับไปที่แขนของตะวัน ความอุ่นจากฝ่ามือเมฆส่งให้ตะวันได้รับรู้ว่านี่คือเมฆ เมฆที่เป็นคน ตะวันยอมเดินไปนั่งทำแผลในโรงนอนชาย โดยที่มีเมฆ สิงหา องศา คอยตามไปดูอาการ
ณ โรงนอนชาย
“เมื่อกี้มันเกิดไรขึ้นวะ” องศา
“กูไม่รู้...” สิงหา
เพื่อนทั้งสองพูดกันอย่างกระซิบพลางมองไปที่ตะวันและเมฆที่กำลังทำแผลให้อย่างเบามือ
“แล้วทำไมมึงเดินออกมาจากป่านั้นได้อ่ะ” เมฆ
เมฆเอ่ยถามตะวันออกมาและฟังสิ่งที่ตะวันเล่าถึงกับทำให้ทั้งสามคนใจตกไปอยู่ที่ตามตุ่ม
“ตอนกินข้าวเสร็จ กูเห็นมึงเดินไปทางบ้านสีเหลือง กูเลยแชทหามึงถามว่ามึงจะไปไหน มึงบอกให้กูวิ่งตามไป พอกูวิ่งตามไปก็ไม่เห็นมึงแล้ว” ตะวัน
“...” เมฆ
“แล้วกูก็ได้ยินเสียงมึงเรียกกูดังมาจากในป่านั้น กูทำใจเดินเข้าไปหามึง แต่กูก็ไม่เจอมึงแล้ว กูมองหามึงทั่วป่าเลย กูจำได้ว่ากูเดินตรงเข้าไปอย่างเดียวเลย แต่พอจะหาทางออกก็หาไม่เจอ” ตะวัน
“เชี่ย...” สิงหา
“แล้วอากาศในนั้นก็ค่อยๆหมด ทั้งๆที่มันก็เป็นป่า แต่ก่อนหน้านั้นกูเห็นมึงยืนหันหลังให้กู แต่พอกูจะเดินเข้าไปหา มึงก็เดินหนีกูออกไปแล้ว” ตะวัน
“จริงหรอวะ...” เมฆ
“อืม และหลังจากนั้นกูก็วิ่งตามมึงเข้าไป กูเหนื่อยมากก็เลยพักเหนื่อยอยู่ตรงต้นไม้ใหญ่ แล้วกูก็ไปเห็นศพใครไม่รู้ เหมือนศพมันเพิ่งจะตายใหม่ๆเลย” ตะวัน
“เชี่ย! องศาทีหลังมึงอย่าปล่อยเพื่อนมึงไปไหนคนเดียวอีกนะ” สิงหา
“เออกูไม่ปล่อยแล้ว” องศา
“จากนั้นเกิดอะไรขึ้นต่อ” เมฆ
“พอกูเห็นศพ กูก็วิ่งหนีไม่คิดชีวิต แต่กูจำได้ว่าวิ่งกลับไปทางเดิม แต่มันก็ไม่เจอทางออก กูเลยพิมพ์หาพวกมึงในกลุ่มสภา กูพยายามพิมพ์ตอบแต่กูไม่มีแรงแล้ว จากนั้นพวกผีก็ชวนกูไปตายด้วย แต่กูก็ใช้แรงที่เหลือวิ่งหนีออกมา แล้วกูก็ได้ยินเสียงคนเรียกกู เป็นเสียงของสิงหากับองศา” ตะวัน
“มึงรู้มั้ย ทำไมมึงออกมาจากป่าได้” สิงหา
“ทำไม” ตะวัน
“พวกพี่ๆที่ปรึกษาเขาไปขอขมาเจ้าที่ให้ จากนั้นไม่นานพวกกูตามหามึง มึงก็วิ่งออกมาพอดี” สิงหา
“ถึงว่าล่ะ ทำไมเมื่อกี้ไม่มองหน้ากู เจอผีแปลงเป็นกูหลอกนี่เอง” เมฆ
ตะวันก้มหน้าหงุด เขาไม่กล้าสบตาใครทั้งนั้น ระแวงไปหมดและไม่รู้ว่าเพื่อนที่อยู่ตรงหน้าเขาทั้งสามคนใช้ตัวจริงรึเปล่า การหลงป่าช้าครั้งนี้จะเป็นบทเรียนให้ตะวันจำไปจนตาย
เราว่าศพเจมส์แน่ๆ เจมส์เข้าไปคนแรกเลยแล้วกลับออกมาแบบชิวๆ มันจะเป็นไปได้ไง?
ตอบลบเราว่าไม่ใช่
ลบ