บรรยาย EP.38
02:54 AM
ครืดดดด~ ครืดดดด~
“ใครมันมาลากอะไรแถวนี้วะ”
เมฆลืมตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืด เขาบ่นออกมาพึมพำพลางหันไปมองรอบๆห้อง เขานึกว่าจะเป็นเพื่อนๆในกุฏิแกล้ง และแว๊บแรกเลยนึกว่าจะเป็นซัน
“มึง”
เมฆจิ้มไปที่แขนของร่างหนาพร้อมเรียกชื่อ แต่กลายเป็นว่าซันนอนหลับปุ๋ยไม่รู้สึกตัว เมฆเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเพราะเสียงที่น่ารำคาญยังคงดังอยู่ และดูเหมือนว่าเสียงมันเริ่มจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆซะแล้วสิ
เมฆตัดสินใจคลานเข่าไปใกล้หน้าต่างไม้ของกุฏิ เมื่อฟังดูดีๆแล้วเสียงนั้นมันเหมือนเป็นเสียงลากโซ่ตรวนใหญ่ เสียงมันดังมากจากฝั่งกุฏิขวา ซึ่งเป็นกุฏิของพวกองศา เขาสงสัยว่าเสียงลากดังขนาดนี้ทำไมพั้นช์ไม่ตื่นทั้งๆที่นอนอยู่ริมหน้าต่าง
“ห้ององศามันเล่นอะไรวะ”
เมฆบ่นออกมาเล็กน้อยด้วยความหงุดหงิดก่อนจะค่อยๆชะโงกหน้าออกไปมอง แต่ก็เห็นแต่ความมืดและความเปลี่ยว แต่ทันใดนั้น หน้าต่างก็ปิดเข้าที่หน้าเมฆอย่างแรง จนทำให้คนตัวเล็กหงายหลังลงไปทับพั้นช์ที่นอนอยู่ริมหน้าต่าง
ปั้ง!!!
“โอ๊ยยยย!!!!”
เมฆร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พั้นช์ที่ถูกเมฆล้มทับอย่างแรงก็ร้องออกมาด้วยความจุกที่หน้าท้องเหมือนกัน เมฆกุมไปที่ใบหน้าและกลั้นเสียงร้องเอาไว้ ดั้งของเขาจะหักมั้ยเนี่ย!?
เพื่อนๆในกุฏิต่างสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ แต่ด้วยความที่กุฏิที่พวกเขานอนกันนั้นมันไม่มีหลอดไฟให้ใช้ ก็เลยต้องใช้แฟลชโทรศัพท์ส่องเอา ซันส่องไฟไปที่ต้นตอของเสียงก็พบว่าเมฆกำลังปาดเลือดที่ไหลออกมาจากจมูก
“เฮ้ย!?”
ซันสถบคำออกมาด้วยความตกใจและรีบเข้าไปดู ส่วนฝาแฝดทั้งสองคนก็กอดกันเกลียวด้วยความหวาดกลัว
“มึงเป็นไรวะเมฆ!!?”
“หน้าต่างมันกระแทกเข้าหน้าอ่ะ”
เมฆน้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อย ซันดึงชายเสื้อตัวเองไปเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตามปากตามคอ ก่อนที่จะใช้มือหนาบีบที่จมูกโดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ประมาณ 5 นาที โดยระหว่างนี้เขาให้เมฆนั่งตัวตรงและหายใจทางปากแทนเพื่อป้องกันการสำลักเลือด
“ล...แล้วหน้าต่างมันปิดเองได้ยังไงวะ”
พั้นช์ถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว เมฆส่ายหัวเล็กน้อยเชิงเป็นสัญญาณบอกว่าเขาไม่รู้ และในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งมือเล็กๆจับไปที่มือหนาแล้วบีบมันเชิงบอกว่าเขาอยากกลับไปนอนแล้ว ซันหลีกทางให้เมฆเดินกลับไปที่นอน ส่วนเจ้าตัวก็เอื้อมมือไปปิดหน้าต่างพลางหันมาบอกเพื่อนๆ
“กูแง้มหน้าต่างเอาไว้ ร้อนหน่อยนะพวกมึง”
ทุกคนไม่มีใครคัดค้าน และทุกอย่างก็เป็นปกติอีกครั้ง ซันค่อยๆล้มตัวลงนอนข้างๆเมฆแล้วมองใบหน้าคนตัวเล็ก
“เสื้อมึงเปื้อนเลือดกูหมดเลยอ่ะ ขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไรครับ นอนเถอะ”
เขาจุ๊บลงไปที่หน้าผากคนตัวเล็กกว่าก่อนจะนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาเมฆและหลับไป เมฆกวาดสายตามองไปที่หน้าต่างบานนั้นด้วยความสงสัย ลมก็ไม่มี แล้วหน้าต่างมันจะปิดกระแทกหน้าเขาอย่างแรงได้ยังไง?
Punch Talk
03:13 AM
ผมที่ตกอยู่ในอาการกึ่งหลับกึ่งตื่นก็ต้องลุกขึ้นมานั่งด้วยอาการงัวเงีย ปกติแล้วผมเป็นคนที่หลับง่ายมากๆแต่ไม่รู้ว่าทำไมคืนนี้ถึงนอนไม่หลับและนอนยากมาก เออคงจะเป็นเพราะว่าร้อนมั้ง? พัดลมมันก็มีตัวเดียว
ผมกำลังจะล้มตัวลงนอนอีกรอบ หัวผมมันแตะหมอนได้ไม่ถึงนาทีก็ได้ยินเสียงเหมือนพระสวดอะไรซักอย่าง แต่เอ๊ะ? มันยังไม่ถึงเวลาตื่นไม่ใช่เหรอครับ ผมยังไม่เห็นได้ยินเสียงระฆังเลย หรือยังมีกฏของสงฆ์ที่พวกเรายังไม่รู้อีกงั้นเหรอ?
“ตีไหนแล้ววะ”
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา มันเป็นเวลาตีสามที่ยังไม่ครึ่ง มันยังไม่ถึงเวลาที่พวกพระสงฆ์ตื่นกัน แล้วใครมาสวดมนต์ตอนนี้?
ผมค่อยๆเปิดประตูกุฏิแล้วเดินออกไปดู ถ้าเป็นหลวงพ่อจริงๆแล้วเขาจะมาสวดอะไรตอนนี้ก่อน
“ไหนวะ”
ผมมองหาหลวงพ่อจากระเบียงกุฏิ ผมยังไม่เห็นวี่แววของคนเลย แต่มันมืดขนาดนี้คงเห็นระยะไกลอ่ะ
“ช่างแม่งเหอะ”
ผมพูดออกมาและหันหลังเดินกลับเข้ากุฏิ แต่ไม่รู้ว่ามีอะไรดลใจให้ผมชะงักแล้วมองหาต้นตอของเสียงอีกครั้ง และแล้วผมก็เห็นร่างของคนสองคนกำลังเดินมาทางกุฏิของพวกผม
เชี่ย!? เดินฝ่าความมืดมาแบบนี้เลยเหรอ!?
ผมเห็นเป็นพระกับ...? ใครวะ??
ผมเพ่งตามองไปที่เงาดำๆนั้นอีกที เอาจริงๆผมแม่งไม่น่าขี้เสือกเลยอ่ะ เพราะสิ่งที่ผมเห็นมันทำให้ผมอยากร้องกรี๊ดออกมา ผมรีบวิ่งเข้ากุฏิแล้วกลับมาคลุมโปงทันที เพราะสิ่งที่ผมเห็นนั้นมันคือ พระอุ้มหมาชีอุ้มแมว! ผมคว้าโทรศัพท์แล้วสมัครเน็ตทันที ผมเสียบหูฟังพร้อมเปิดเพลงดังๆให้กลบเสียงสวดนั้น
เอาจริงๆผมคิดว่ามันเป็นแค่ความเชื่อ แต่พอมาเจอจริงๆแล้วแม่งโคตรน่ากลัวเลยอ่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น